เมนู

อรรถกถารูปสูตร


ในรูปสูตรที่ 4 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า รูเปหิ ความว่า กว่ารูปาวจรธรรมทั้งหลาย. บทว่า สนฺตตรา
ความว่า สงบดีกว่า ด้วยว่ารูปาวจรธรรมทั้งหลาย ชื่อว่าสงบแล้ว เพราะข่ม
กิเลสไว้ได้ เพราะละองค์ที่หยาบมีวิตกเป็นต้นได้ และเพราะมีภูมิมั่นคงแล้ว
ส่วนอรูปธรรมทั้งหลาย มีพฤติกรรมสงบดีกว่ารูปธรรมแม้เหล่านั้น เพราะมี
องค์สงบ และเพราะมีอารมณ์สงบ เพราะฉะนั้น อรูปธรรมเหล่านั้น พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า สนฺตตรา (สงบกว่า). พระนิพพาน ชื่อว่า นิโรธ
เพราะว่าผลสมาบัติก็สงบกว่าอรูปฌานที่ 4 ที่แม้ยังไม่มีความสุขุมเกิด โดย
ที่ยังมีสังขารเหลืออยู่ เพราะสงบความกระวนกระวายอันเกิดแต่กิเลส และ
เพราะมีพระนิพพานเป็นอารมณ์ ก็จะป่วยกล่าวไปไยถึงธรรมเป็นที่สงบแห่ง
สังขารทั้งปวง คือพระนิพพาน เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
อรูเปหิ นิโรโธ สนฺตตโร (นิโรธสงบกว่าอรูปทั้งหลาย).
พึงทราบวินิจฉัยในคาถาทั้งหลายดังต่อไปนี้ บทว่า รูปฺปคา แปลว่า
ผู้เข้าถึงรูปภพ. จริงอยู่ รูปภพในคาถานี้ พระองค์ตรัสเรียกว่า รูป เหมือน
ในประโยคมีอาทิว่า ยังมรรคให้เจริญเพื่อเข้าถึงรูป. บทว่า อรูปฏฺฐานิโย
ได้แก่อรูปาวจรทั้งหลาย. ด้วยบทว่า นิโรธํ อปฺปชานนฺโต อาคนฺตาโร
ปุนพฺภวํ
สัตว์เหล่านั้นผู้ไม่รู้ชัดซึ่งนิโรธจะมาสู่ภพใหม่นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงแสดงว่า นิโรธเป็นธรรมสงบกว่ารูปธรรมและอรูปธรรมทั้งหลายนั่นเอง.
บทว่า อรูเปสุ อสณฺหิตา มีอธิบายว่า ชนเหล่าใดไม่ดำรงอยู่ในอรูปภพ
ทั้งหลาย ด้วยความกำหนัดในอรูป คือกำหนดรู้อยู่ แม้ซึ่งอรูปภพเหล่านั้น.
บทว่า เย ในคำว่า นิโรเธ เย วิมุจฺจนฺติ เป็นเพียงนิบาต. คำที่เหลือ
มีนัยดังกล่าวแล้วในหนหลังทั้งนั้น.
จบอรรถกถารูปสูตรที่ 4